ปัญหาและวิธีการหายใจที่ถูกต้องในขณะออกกำลังกาย
การออกกำลังกายเป็นกิจกรรมที่ดีต่อสุขภาพ แต่หลายคนมักประสบปัญหาเรื่องการหายใจที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการออกกำลังกายได้ วันนี้เรามาพูดคุยถึงปัญหานี้และวิธีการหายใจที่ถูกต้องในการออกกำลังกายกันเถอะ!
ปัญหาที่พบบ่อยเมื่อลืมเรื่องการหายใจ
-
หายใจไม่ทัน
หลายคนขณะออกกำลังกายอาจรู้สึกเหนื่อยหอบและหายใจไม่ทัน เพราะการหายใจที่เร็วเกินไปหรือหลังจากออกแรงมากๆ จนทำให้ร่างกายไม่สามารถรับออกซิเจนได้เพียงพอ -
อาการรู้สึกเวียนหัว
เมื่อเราหายใจตื้น หรือลืมการหายใจลึก อาจทำให้เกิดความรู้สึกเวียนหัวหรืออาจรู้สึกเหมือนจะหมดสติ นั่นเป็นเพราะระดับออกซิเจนในร่างกายต่ำลง -
ปวดกล้ามเนื้อมากเกินไป
การหายใจที่ไม่ถูกต้อง อาจทำให้กล้ามเนื้อไม่ได้รับออกซิเจนตามที่ต้องการ ส่งผลให้กล้ามเนื้อเกิดอาการเมื่อยล้าและปวดมากขึ้นวิธีการหายใจที่ถูกต้อง
จะป้องกันปัญหาข้างต้นได้อย่างไร? นี่คือวิธีการหายใจที่ถูกต้องในขณะออกกำลังกาย:
- หายใจลึก ๆ
การหายใจลึกด้วยท้อง (diaphragmatic breathing) คือ การหายใจที่ทำให้ท้องขยายออก ซึ่งจะช่วยให้คุณได้รับออกซิเจนได้มากขึ้น วิธีทำคือ:
- ยืนหรือ นั่งให้สบาย
- วางมือบนท้อง แล้วหายใจเข้าทางจมูกให้ท้องขยายออก
-
ค่อยๆ หายใจออกทางปาก ให้ท้องยุบกลับลง
- จัดจังหวะการหายใจให้เหมาะสม
เช่น ถ้าคุณกำลังวิ่ง ให้หายใจเข้าผ่านจมูก 2 ก้าวแล้วหายใจออก 2 ก้าว ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจนอย่างมีประสิทธิภาพ ในกรณีที่ออกกำลังกายหนัก ๆ อาจปรับจังหวะได้ตามความสะดวก
- หายใจด้วยจมูก
การหายใจด้วยจมูกช่วยให้การหายใจมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะช่วยกรองอากาศ ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมก่อนเข้าสู่ปอด
- ฝึกการหายใจในขณะที่ออกกำลังกาย
เมื่อคุณเริ่มออกกำลังกาย ให้ให้ความสำคัญกับการหายใจ โดยการให้จังหวะการหายใจเข้ากับการเคลื่อนไหว เช่น หากคุณทำการยกเวท เมื่อยกน้ำหนักขึ้นให้หายใจออก ขณะลดน้ำหนักลงให้หายใจเข้า
สรุป
การหายใจที่ถูกต้องมีความสำคัญมากในการออกกำลังกาย เพราะมันไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณมีประสิทธิภาพในการออกกำลังกายที่ดีขึ้น แต่ยังช่วยให้คุณสนุกกับการทำกิจกรรมกีฬาอย่างเต็มที่ อย่าลืมฝึกฝนการหายใจของคุณเองและหมั่นเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะในด้านนี้ให้ดีขึ้นนะ!
ออกกำลังกายดี ๆ ให้หายใจดี ๆ ครับ!
